วันพุธที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2556

การสื่อสารข้อมูลในระบบเครือข่าย

การสื่อสารข้อมูลในระบบเครือข่าย
Network Communication หมายถึง ระบบการสื่อสารของ Network นั่นเอง ซึ่งมีออยู่หลาย รูปแบบ ให้เลือกใช้งาน ทั้งนี้การตัดสินใจเลือกรูปแบบ ใดมาใช้งานจะต้องคำนึงถึงปัจจัย ประกอบหลาย ๆ อย่าง เช่น ชนิอของ Cable และชนิดของ Network เป็นต้น
สิ่งที่จะศึกษาในหัวข้อต่อไปนี้ ได้แก่
    1. ชนิดของ Cable
    2. ชนิดของ Network
    3. มาตรฐานอุตสาหกรรมของ Network
ชนิดของ Cable
Cable หรือสายส่งข้อมูล เป็นอุปกรณ์อย่างหนึ่งในระบบ Network ที่ใช้เป็นทางเดินของข้อมูล ระหว่าง Workstation กับ File Server มัลักษณะ คล้ายสายไฟ หรือ สายโทรศัพท์ แล้วแต่ชนิดของ Cable แต่การเลือกใช้ Cable นั้น ควรคำนึงถึงความปลอดภัย (Safety) และคลื่นรบกวน (Interference) เป็นสำคัญ Cable ที่ดีไม่ควรเป็นตัวนำไฟเมื่อเกิดอัคคีภัยขึ้นและสามารถป้องกันคลื่นรบกวนจากอำนาจแม่เหล็ก (Electromagnetic Interference-EMI) และคลื่นวิทยุได้ (Radio Frequency Interferace - RFI)
1. Coaxial Cable หรือสาย Coax
นอกจากใช้ในระบบ Lan แล้ว ยังสามารถนำไปใช้กับระบบ Tv และ Mainframe ได้ด้วยสาย Coax นั้นเป็นสายที่ประกอบไปด้วยแกนของทองแดง หุ้มด้วยฉนวนและสายดินซึ่งมีลักษณะเป็นฝอย แล้ว หุ้มด้วย ฉนวนอีกชั้นหนึ่ง
ในปัจจุบันได้เปลี่ยนจากลวดทองแดงเป็นลวดเงินที่พักกันหลาย ๆ เส้นแทน ทั้งนี้เพื่อป้องกัน การรบกวน ที่เรียกว่า " Cross Talk " ซึ่งเป็นการรบกวน ที่เกิดจากสัญญาณข้างเคียง ดังนั้นจึง ออกแบบให้กลายเป็นเส้นเล็กพันเป็นเกลียวนั่นเองCoaxial Cable แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ
    1. Thick Coaxial Cable ( ชนิดหนา) และ
    2. Thin Coaxial Cable ( ชนิดบาง)
โดยแบบ Thick จะเดินได้ในระยะทางที่ไกลกว่า คือ 500 เมตร ส่วน Thin จะเดินได้สูงสุดเพียง 200 เมตร แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของ Network Card ที่ดีด้วย
ข้อดีของ Coaxial Cable คือ ปลอดภัยจากการรบกวน อีกทั้งตัวสายเองก็ไม่ไปรบกวนผู้อื่น และสามารถทำงานที่มีความเร็วสูงถึง 100 MBITS ต่อวินาที นอกจากนั้นยังง่ายในการ ติดตั้งจึงทำ ให้เป็น การที่นิยมแพร่หลาย
2. Twisted Pair Cable
เป็นสายส่งสัญญาณที่ประกอบไปด้วยสายทองแดง 2 เส้นขึ้นไปบิดกันเป็นเกลียว (Twist) และห่อ หุ้ม ด้วยฉนวน โดยแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ แบบไม่มี Sheid ซึ่ง Sheid นี้คือ คำนวณ ในการป้องกัน สัญญาณรบกวนหรือระบบป้องการสัญญาณรบกวน โดยจะเรียก Cable ทั้ง 2 ชนิดนี้ว่า UInshield Twisted Pair (UTP) และ (Sheid Twisted Pair(STP) สาย UTP เป็นสายที่มีราคาถูกและหาง่ายแต่ป้องกัน สัญญาณรบกวน EMI ได้ไม่ดีเท่ากับสายแบบ STP
สาย Twisted Pair ถูกจัดแบ่งออกเป็นระดับต่าง ๆ 5 ระดับ ตามคุณภาพ คือ Type 1,2,3,4 และ 5
    • Level 1 สำหรับการสื่อสารแบบเสียง(Voice)
    • Level 2 ใช้ได้ทั้งการสื่อสารแบบเสียงและข้อมูล ชนิดนี้ไม่นำมาใช้ Network
    • Level 3 ใช้ได้เช่นเดียวกับ Level 2 ความเร็ว 16 MHz. อัตราการส่งข้อมูลคือ 10 เมกะบิตต่อวินาที มักใช้กับระบบ 10 Base-T
    • Level 4 สำหรับระบบ 4 Mbps Token Ring และ 10 Base-T ขนาดใหญ่ความเร็ว 20 เมกะบิตต่อ MHz อัตราการส่งข้อมูลคือ 16 เมกะบิตวินาที
    • Level 5 ใช้สำหรับ Network ที่ต้องการความเร็วสูง ซึ่งความเร็วที่วัดได้มีค่าสูงถึง 100 MHz อัตราการส่งข้อมูลคือ 100 เมกะบิตต่อวินาที
ปัจจุบัน จะใช้แบบ Level 5 เป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากราคาถูกลงมาก และสามารถใช้ได้ทั้งความ เร็วแบบ 10 Mbps และ 100 Mbps

3. Fiber optic Cable หรือ Cable ใยแก้ว
เป็น Cable ชนิดใหม่ล่าสุด ประกอบไปด้วยท่อใยแก้วที่มีขนาดเล็กและบางมากเรียกว่า Core ล้อมรอบด้วยชั้นของใยแก้วที่เรียกว่า Cladding อัตราการส่งถ่ายข้อมูลสูงถึง 565 เมกะบิตต่อวินาที หรือมากกว่า ป้องกันสัญญาณรับกวนได้ดีมาก ขนาดของสายเล็กมากและเบามากแต่มีราคาแพง ปัจจุบัน จึงไม่เป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย
กฏเกณฑ์ทั่วไปในการติดตั้ง Cable
1. ข้อกำหนดของสาย ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเรื่องความยาวของสายค่าความต้านทาน รวมทั้งชนิด ของ Terminator ที่ใช้ในการติดตั้งสายดิน (Ground) ที่ถูกต้อง
2. ทดสอบสายสัญญาณให้ถูกต้องก่อนติดต่อ โดยใช้อุปกณ์ง่าย ๆ เช่น Multimeter เพื่อวัด ความต้านทาน วัดขั้วต่อสัญญาณระหว่างขั้วสัญญาณของ Ground ว่าช็อตหรือไม่
3 กำหนดความยืดหยุ่นในการเดินสาย อย่าเดินสายให้ตึงจนเกินไป ควรปล่อยให้หย่อนสักนิด อย่าเดินสายหักมัก หากเดินสายที่พลุกพล่าน ให้ฝังกับพื้น บนผนังใน กำแพงหรือใส่ท่อร้อยสาย
4. หลีกเลี่ยงการเดินสายคู่กับสายส่งสัญญาณหรือสายไฟฟ้าแรงสูง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น